ถ้าชอบเที่ยวภูเขา เดินป่า ชมธรรมชาติ ยลไอหมอก เพชรบูรณ์คงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่เรานึกถึง เพราะมีทิวเขาน้อยใหญ่โอบล้อม กับป่าไม้พืชพรรณเขียวขจี สภาพอากาศเย็นสบาย สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาลสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์คงหนีไม่พ้นภูทับเบิก แหล่งชมทะเลหมอกและกะหล่ำปลีลูกใหญ่กว่าฝ่่ามือ
1. ภูทับเบิก

เป็นช่วงเวลาดีของการออกไปโอบกอดทะเลหมอก ต่อด้วยการเดินชมแปลงกะหล่ำปีที่ผุดขึ้นละลานตาทั่วภูทับเบิกท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์เป็นช่วงเวลาดีของการออกไปโอบกอดทะเลหมอก ต่อด้วยการเดินชมแปลงกะหล่ำปีที่ผุดขึ้นละลานตาทั่ว


2. เขาตะเคียนโง๊ะ

พร้อมฟินกับทะเลหมอกรอบด้าน 360 องศา บนเขาตะเคียนกันหรือยังยอมรับว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนเขาค้อ และจากจุดชมวิวนี้เองสามารถมองไปเห็นเขาปู่ เขาย่า ที่มีรูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจิ

เป็นอีกภาพที่สวยงามมาก
3. ทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)


เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ถือเป็นแหล่งผืนป่าสะวันนาแห่งเดียวของภาคเหนือที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ภายในอุทยานครอบคลุมพื้นที่สองจังหวัด คือเพชรบูรณ์และพิษณุโลก มีพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้าง
4. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว



5. Pino Latte Resort & Cafe


Pino Latte Resort & Cafeตอบโจทย์ครบ ซึ่งเป็นหนึ่งในที่พักและคาเฟ่ยอดฮิตสำหรับคนที่เดินทางมาเที่ยวเขาค้อ ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ด้านบนเป็นร้านคาเฟ่ฮิปๆ ดัดแปลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์ มีเมนูทั้งของคาว ของหวาน เบรคฟาสต์ และเครื่องดื่ม
6.“Bluesky Garden” สวนดอกไม้สไตล์อังกฤษ

7. ทุ่งกังหันลม เขาค้อ

ใครมาเที่ยวเขาค้อ คงสะดุดตากับกังหันลมยักษ์ใหญ่ ที่ตั้งเรียงรายอยู่บนเนินเขาสูง ในหมู่บ้านเพชรดำ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลไปถึงวัดผาซ่อนแก้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เราเข้าไปเก็บภาพสวยๆ ด้วย มีจุดชมวิวสองจุด สถานที่ท่องเที่ยวไม่ต้องกลัวจะเดินเมื่อยเพราะที่นี่เขามีบริการรถรางพาชมจุดต่างๆ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
8. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว


เพชรบูรณ์ถือเป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์จริงๆ ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ อากาศเย็นสบายมากๆเเนะนำเพื่อนๆเที่ยวที่นี่นะครับเพราะมองเเล้วมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งธรรมชาติน่าอยู่ครับ
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม
3 thoughts on “8 จุด ที่ควรเช็คอินที่เพชรบูรณ์ได้ทุกฤดูกาล”